เมื่อถึงคราวได้ฤกษ์ต้องก่อสร้าง หนึ่งในส่วนสำคัญของงานช่างรับเหมาที่ขาดไม่ได้ก็คือการเตรียมวัสดุโครงสร้างสำคัญ อย่าง "เหล็ก" ให้เหมาะสมและคุ้มค่าแก่การใช้งาน แต่ปัญหาคือจะเลือกเหล็กแบบไหนดีระหว่าง "เหล็กสำเร็จรูป" หรือ "เหล็กรีดเอง" บทความนี้ WT Reinforcement จึงขอมาเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีกันแบบชัด ๆ ว่า เหล็กรีดเอง VS เหล็กสำเร็จรูปไหนดีและคุ้มค่ากว่ากัน
เหล็กรีดเอง คือเหล็กที่เริ่มแรกอาจเป็นเหล็กมาตรฐาน มอก. หรือไม่ก็ตามจากนั้นช่างจะนำเอาไปขึ้นรูปเอง เพื่อให้ได้ชิ้นงานออกมาใช้งานตามต้องการ ต่างจากเหล็กสำเร็จรูปหรือฐานรากสำเร็จรูปที่จะมีการผลิตชิ้นงานออกมาพร้อมใช้งานทันที โดยไม่จำเป็นต้องหล่อใหม่หรือตีเพิ่มแต่อย่างใด
1) ขึ้นแบบและเลือกขนาดเหล็กได้ตามต้องการ แต่การตีเหล็กขึ้นใหม่ให้ได้มาตรฐานและรูปพรรณตามต้องการจำเป็นต้องใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์สูง แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมาก็คือ ค่าแรงตามประสบการณ์
2) แม้เหล็กตีมือจะประหยัดค่าใช้จ่ายจากการนำเศษเหล็กกลับมารีดรวมกัน เพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้ง มากกว่าเหล็กสำเร็จรูปหรือฐานรากสำเร็จรูป แต่อย่าลืมว่า ระยะเวลาที่ต้องทำขึ้นใหม่ก็ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการจ่ายค่าแรงช่างเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
3) มีโอกาสเกิดความเสียหายในส่วนโครงสร้างได้มากกว่าเหล็กสำเร็จรูป จากกระบวนการไม่ได้มาตรฐาน สัดส่วนเคมีไม่เป็นไปตามความเหมาะสม เกิดการปลอมปนของสิ่งไม่พึงประสงค์เป็นต้น เป็นต้น เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ เลยไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในงานโครงสร้างระยะยาว ความปลอดภัยอาจไม่มั่นใจเท่ากับเหล็กมาตรฐาน มอก.
4) มีโอกาสลดหรือขาดคุณภาพจากการเป็นเหล็กมาตรฐาน มอก. เพราะระหว่างกระบวนการขึ้นรูปอาจทำให้รูปพรรณหรือน้ำหนักไม่ถึงตามมาตรฐานที่รัฐกำหนด
เหล็กสำเร็จรูป คือเหล็กที่ผ่านกระบวนการผลิตออกมาให้มีน้ำหนักและรูปพรรณเหมาะสมแก่การนำไปใช้งานทันที โดยเฉพาะงานเชิงโครงสร้างในระยะยาว โดยส่วนใหญ่จะผลิตจากโรงงานเหล็กมาตรฐาน มอก. ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 จึงมั่นใจในเรื่องการใช้งานได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องมาขึ้นรูปใหม่อีกครั้ง และคุ้มค่าเหมาะแก่การใช้งานในระยะยาว
1) เหล็กสำเร็จรูปมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย หากส่งตรงจากโรงงานเหล็กมาตรฐาน มอก. และมีใบอนุญาตจากภาครัฐชัดเจน เหมือน WT Reinforcement ที่มุ่งมั่นตั้งใจผลิตชิ้นงานเหล็กให้ได้มาตรฐานและผ่านการตรวจสอบทุกชิ้นก่อนส่งถึงมือคุณ เพื่อให้ช่างทุกท่านได้นำไปใช้งานต่อได้อย่างมีคุณภาพ
2) เหล็กสำเร็จรูปช่วยประหยัดเวลาการทำงาน ทั้งเหล็กฟุตติ้ง เหล็กตอม่อ เหล็กเสา เหล็กคาน เหล็กปลอกและผลิตภัณฑ์เหล็กเส้น ตัด ดัด สำเร็จรูป เป็นต้น เพราะช่างสามารถหยิบไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นช่างมือใหม่หรือช่างประสบการณ์สูงก็สามารถใช้งานเหล็กมาตรฐาน มอก. ได้ ดังนั้น เหล็กสำเร็จรูปหรือผลิตงานเหล็กตามออเดอร์ยังประหยัดระยะเวลาการทำงานและประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจ้างช่างด้วย
3) เหมาะกับงานโครงสร้างสำคัญในชิ้นงาน เช่น เสา คาน เป็นต้น เพราะเหล็กสำเร็จรูปหรือผลิตงานเหล็กตามออเดอร์เป็นเหล็กที่มีมาตรฐานสูง น้ำหนักและรูปพรรณแข็งแรงทนทานเป็นเนื้อเดียวกัน ยิ่งมาจากโรงงานได้มาตรฐานยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องเอาเหล็กเก่ามีสนิมมารีดแล้วเปราะแตกง่าย
4) มาตรฐานคงที่ เพราะผ่านกระบวนการรีดร้อนด้วยอุณหภูมิและเครื่องมือที่เหมาะสมกับการทำงานเหล็กโดยเฉพาะจนได้สัดส่วนของการผสมทางเคมีตามต้องการ ปราศจากสนิมและสิ่งไม่พึงประสงค์ลงไปในเนื้อของเหล็ก ไม่ว่าจะนำเหล็กสำเร็จรูปไปใช้เลย ตัด หรืออื่น ๆ ก็มั่นใจได้ว่า คุณภาพจะไม่ลดลงแน่นอน
5) แม้เหล็กสำเร็จรูปหรือฐานรากสำเร็จรูปที่เป็นเหล็กมาตรฐาน มอก. จะมีราคาสูงกว่าเหล็กรีดเอง แต่เทียบกับอายุการใช้งานยาวนาน ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความยากง่ายในการใช้งาน (ไม่จำเป็นต้องใช้ช่างประสบการณ์สูง) ก็มักจะให้ความคุ้มค่ามากกว่า ยิ่งเป็นแบบผลิตงานเหล็กตามออเดอร์ยิ่งตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะแบบมากขึ้น
6) สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคจากการใช้วัสดุเหล็กมาตรฐาน มอก. และเพิ่มเครดิตให้ผู้รับเหมาไปในตัว
เหล็กทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะเหล็กรีดเองหรือเหล็กสำเร็จรูป ล้วนมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สำคัญคือควรเลือกเหล็กมาตรฐานมอกที่มั่นใจในเรื่องการใช้งานอย่างมีคุณภาพและปลอดภัยในระยะยาว นอกจากนี้ก็ตัดสินใจจากความต้องการของแต่ละท่าน ถ้าปัจจัยหลักคือ
เมื่อต้องทำงานเกี่ยวกับเหล็ก อย่าลืมตัดสินใจจากความคุ้มค่า เพราะค่าใช้จ่ายเหล็กที่ประหยัดกว่าจากเหล็กรีดอาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายยิบย่อยมหาศาล สำหรับท่านใดที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหล็กสำเร็จรูป ฐานรากสำเร็จรูป หรือผลิตงานเหล็กตามออเดอร์ สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมได้ที่ WT Reinforcement
